ขึ้นชื่อว่าเป็นวิตามิน สารอาหารที่จำเป็นรองจากสารอาหารหลัก แต่ขาดไม่ได้ ทุกวันนี้เรากินวิตามินกันเป็นอาหารหลัก หากเทียบกับอาหาร 5 หมู่
วิตามินถือว่าเป็นความต้องการของร่างกายที่น้อยที่สุด แต่ก็ไม่สามารถขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปได้ หากร่างกายได้รับวิตามินไม่เพียงพอก็จะเกิดอาการต่างๆ ให้เห็นเด่นชัด ต่างจากสารอาหารหลักที่ร่างกายได้รับ เนื่องจากหากเกิดการขาดสารอาหารจำพวกอื่น ร่างกายก็แค่ผ่านผอมลงผิดรูป และส่วนอื่นๆ ก็จะตามมา แต่ต่างจากวิตามินที่สามารถเห็นผลได้ทันที
แต่การทานวิตามินของคนในปัจจุบัน เกินความจำเป็น จึงทำให้เกิดการสะสม ส่งผลร้ายมากกว่าผลเสีย เพราะวิตามินโดยทั่วไปนั้น ร่างกายจะได้รับจากอาหารในทุกๆ มื้ออยู่แล้ว และจะมีมากในผักและผลไม้ประเภทต่างๆ ซึ่งมีแตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ ในแต่ละวันนั้น ร่างกายเราต้องการวิตามินรวมทั้งหมดแค่ 60 มิลิกรัม หากเป็นผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำร่างกายจะต้องการวิตามินซีเพิ่มขึ้นอีก 40 % เท่านั้นเอง ส่วนเกินนั้นจะถูกขับออกและเกิดการสะสมในร่างกาย มีผลเสียอย่างยิ่งต่ออวัยวะต่างๆ
ร่างกายต้องการวิตามินอะไรบ้าง
- วิตามินบี 1 วันละแค่ 1.5 มิลลิกรัม โดยสารอาหารที่ได้รับและมีวิตามินบี 1 สูง ซึ่งเป็นอาหารที่กินได้ 100 กรัมได้แก่ เนื้อหมู หรือข้าวกล้อง เมล็ดฟักทองแห้ง ถั่วต่างๆ แค่ 1 กำมือก็จะได้รับสารวิตามินบี 1 ครบถ้วนแล้วเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่หากทานปลาดิบ กินหมาก ดื่มน้ำชา หรือเคี้ยวเมี่ยง ควบคู่ไปกับการกินอาหารที่มีวิตามินบี 1 สารที่อยู่ในอาหารอย่างที่ว่าจะไปขัดขวางไม่ให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินบี 1 ไปใช้ประโยชน์ได้ จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าวในมื้อหลัก การขาดวิตามินบี 1 จะทำให้เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เหน็บชาตามมือ เท้า
- วิตามินบี 6 แต่ละวันร่างกายต้องการเพียงวันละ 1.8-2.2 มิลลิกรัมเท่านั้น ได้จากอาหารที่ให้โปรตีนทั่วไปเช่น ถั่ว ตับ ไข่ และนม รับรองว่าไม่มีทางขาดแต่ แล้วทำไมต้องเสริม
- วิตามินบี 12 ร่างกายต้องการเพียงแค่ 2 ไมโครกรัมต่อวัน แหล่งอาหารของวิตามินชนิดนี้คือเนื้อสัตว์ทั้งหลาย เครื่องในสัตว์และอาหารหมักดองจากสัตว์ ผู้ที่ขาดหรือเสี่ยงต่อการขาดวิตามินบี 12 คือผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์เท่านั้น ซึ่งจะทำให้เกิดโรคโลหิตจาง
- โฟเลต หรือกรดโฟลิก แค่ 200 ไมโครกรัมต่อวันสำหรับที่ร่างกายต้องการ หากเป็นหญิงตั้งครรภ์จะต้องการมากขึ้นเป็น 400 ไมโครกรัมต่อวัน ช่วยในเรื่องการสร้างเซลล์เม็ดเลือด และโครงสร้างของเซลล์ อาหารที่มีโฟเลตสูงเช่น ตับ มีมากถึง 30-50 ไมโครกรัม ผักใบเขียว มีประมาณ 9 ไมโครกรัม น้ำส้มคั้นดื่มทันที มี 50-100 ไมโครกรัม
- ไนอะซิน ต้องการวันละ 20 มิลลิกรัม อาหารที่มีไนอะซินคือ เนื้อวัว 6.7 มิลลิกรัม ตับวัว 12.8 มิลลิกรัม เนื้อเป็ด 11.7 มิลลิกรัม รำข้าว 29.8 มิลลิกรัม ใบกระถิน 5.4 มิลลิกรัม ตำลึง 3.8 มิลลิกรัม เห็ด 4.9 มิลลิกรัม เนื้อไก่ 8 มิลลิกรัม หากขาดสารชนิดนี้จะรู้สึกปวดหัว น้ำหนักลด อ่อนเพลีย อาหารไม่ย่อย เบื่ออาหาร ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ผิวหนังเมื่อถูกแสงแดดจะแสบร้อน ปลายขอบลิ้นบวมแดง
- วิตามินซี วิตามินที่เรารู้จักกันดี มีมากในผักและผลไม้สดเกือบทุกชนิด ในแต่ละวันร่างกายต้องการแค่ 60 มิลลิกรัม แค่ทานฝรั่ง 1 ลูกก็ได้วิตามินซีมากถึง 160 มิลลิกรัมแล้ว
วิตามินเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นวิตามินที่ได้จากอาหารในมื้อปกติ ในปัจจุบันมีการเพิ่มปริมาณวิตามินอัดเม็ด เพื่อให้ร่างกายต้องการ แต่รู้หรือไม่ หากร่างกายรับวิตามินเข้าไปมาก ก็ไม่ได้หมายความว่าจะส่งผลดีต่อร่างกาย เพราะวิตามินส่วนเกินนั้นจะถูกขับออกทางปัสสาวะและอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิตามินซี ที่ไม่เคยมีรายงานวิจัยฉบับใดว่า การได้รับวิตามินซีในปริมาณที่มากจะสามารถแก้โรคไข้หวัด โรคมะเร็ง หรือช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื่นได้ ซึ่งไม่มีรายงานทางวิทยาศาสต์ฉบับใดยืนยันแน่ชัดว่าป้องกันได้ แต่ในทางกลับกัน รายงานวิจัยหลายฉบับมีการระบุว่า การรับประทานวิตามินซีมากและติดต่อกันนานๆ จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคนิ่วในไตสูง อุจจาระร่วง ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กมากเกินไปทำให้เกิดท้องร่วง ท้องเสียเป็นประจำ
น้ำผลไม้สำเร็จรูปที่มีการแช่เย็นหรือเก็บไว้นานหลายวัน วิตามินซีจะสูญสลายเพราะวิตามินซี เป็นวิตามินที่มีคุณสมบัติละลายในน้ำได้ การคั้นน้ำผลไม้ หรือการดึ่มน้ำผลไม้ที่ทิ้งไว้นาน ไม่ได้เป็นการเพิ่มวิตามินซีให้แก่ร่างกาย คุณจะได้แค่น้ำและน้ำตาลเท่านั้นเอง หากจะรับประทานวิตามินซีให้ได้คุ้มค่ามากที่สุดคือการทานน้ำผลไม้คั้นสดใหม่ หรือรับประทานผักสด ผลไม้สดทุกวัน ก็เพียงพอแล้ว
ทั้งนี้ยังไม่รวมวิตามินที่ร่างกายจะได้รับในส่วนของวิตามินที่มีคุณสมบัติละลายในไขมัน ซึ่งบิวตี้ฟูลออลเดย์จะนำเสนอในครั้งต่อไป
อ้างอิงจาก นิตยสารสุขภาพ โรงพยาบาลเอกชน
ลดน้ำหนัก ด้วยการกินผลไม้แทนอาหาร
เคยกล่าวเอาไว้แล้วในวิธีที่เกี่ยวกับ การลดน้ำหนัก ในแบบต่างๆ กันออกไป ซึ่งวิธีที่สาวๆ นิยมใช้กันมากนั้นมีหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือ การลดน้ำหนักโดยการกินผลไม้แทนอาหารมื้อหลัก หรืออาหารมื้อรอง เพื่อรองท้องให้อิ่มก่อนทานอาหารมื้อหลัก
อ่านเพิ่มเติมเคล็ดลับความงามที่เกี่ยวข้อง
เคล็ดลับความสวย
สักคิ้วสามมิติ ที่คนดังส่วนใหญ่เลือกใช้
จาก “แค่ผู้ชายรักสวยรักงาม” กลายเป็น “อาจารย์สักคิ้วคิวทอง” ที่คนดังส่วนใหญ่เลือกใช้บริการ
Lifestyle
เคล็ดลับความสวย แบบ ฮาจีวอน
ในนาทีนี้คงจะไม่มีใครปฏิเสธว่า ฮา จีวอน นางเอกสาวฝีมือดีของวงการบันเทิงเกาหลี ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของแฟนละครไม่เสื่อมคลาย แม้จะคว่ำหวอดในวงการมานานแล้วก็ตาม พิสูจน์ได้จากละครเรื่องล่าสุดของเธอที่มีชื่อว่า Secret Garden ที่ถึงแม้จะเป็นละครแนวแฟนตาซีเกินจริงไปหน่อย
ทรงผมสวย
สไตล์ทรงผมเจ้าสาว สุดน่ารัก
เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ใหม่มาแรงสำหรับยุคนี้เลยทีเดียวกัยบ แฟชั่นทรงผมของบรรดาเจ้าสาวน่ารักทั้งหลาย ที่เหมาะกับชุดแต่งงาน เรามาดูกันว่า ทรงผมไหนเหมาะกับงานแต่งของคุณกันบ้าง และเจ้าสาวอย่างคุณเองมีสไตล์เทรนด์ทรงผมแบบไหน
ผิวสวยหน้าใส
การดูแลผิว สวยใส ห่างไกลจุดด่างดำ
ปัญหาหนักอกสำหรับสาวๆ โดยเฉพาะที่ใบหน้าและผิวตามเรือนร่างคือ เรื่องของผิวคล้ำเสียสะสม จนผุดมาเป็น ฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ ไม่ว่าจะมาจากแสงแดดโดยตรง ฝุ่นละอองที่สะสมทำให้เกิดสิว และอื่นๆ แต่ส่วนใหญ่แล้ว
เท้าสวย ขาเรียวงาม
วิธีทำให้ต้นขา เล็กลง
สาวคนไหนอยากมีขาที่เรียวสวย มาทางนี้ เพราะพวกเราต่างก็ชอบที่จะมีขาอ่อนที่สมส่วนและน่องที่เรียวงาม เพียงแค่การบริหารและมีโภชนาการที่ดีก็จะช่วยให้เรียวขาของเราแน่นขึ้น มีรูปร่างดีขึ้นได้ไม่ยาก ชิร่า เครเมอร์ นักบำบัดทางสรีระจากกรุงเมลเบิร์น และ International Fitness Presenter
แต่งหน้าสวย
แต่งหน้ายังไงให้สวยเริ่ด
สาวๆ หลายคนบ่นอุบว่า ไม่มีเทคนิคการใช้พัฟแต่งหน้าบ้างเหรอ วันนี้บิวตี้ฟูลออลเดย์เลยถือโอกาสเลือก เคล็ดลับแต่งหน้าสวย มาฝากกัน ด้วยเทคนิคการใช้พัฟแต่งหน้า ทาพัฟยังไงให้สวยเริ่ดและก็ ดูดีแบบธรรมชาติๆ มาฝากกันในวันนี้ค่ะ สาวๆ เคยสังเกตไหมว่าทำไมทาแป้งแต่งหน้า