จากกระแสสุขภาพที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ได้มีการนำเมล็ดพืชชนิดต่างๆ มาศึกษาวิจัยประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพกันมากมายหลายชนิด หนึ่งในเมล็ดพืชที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้คือ เมล็ดเชีย หรือ Chia Seeds

โดยเมล็ดพืชชนิดนี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Calvia hispanica L. จัดเป็นพืชพื้นเมืองทางตอนใต้ของเม็กซิโกและตอนเหนือของกัวเตมาลา อยู่ในตระกูลเดียวกับสะระแหน่

คนพื้นเมืองมักนำเมล็ดเชีย หรือเมล็ดเจียนี้มาสกัดน้ำมันไว้ใช้ปรุงอาหาร ซึ่งเมล็ดชนิดนี้มีสรรพคุณที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก เพราะมีสารอาหารประเภทไขมันในปริมาณมาก เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ๆ มีภูมิอากาสแห้งแล้งหรือกึ่งแห้งแล้ง โดยชาวอินเดียนแดงมักใช้เมล็ดชนิดนี้เป็นยารักษาโรคอ่อนแรงหรือใช้เป็นอาหารเพิ่มพลังงานและเพิ่มความแข็งแรงในภาวะที่ร่างกายเจ็บป่วยอย่างรุนแรงได้

Chia Seeds

เมล็ดเชีย Chia Seeds หรือเมล็ดเจีย มีลักษณะเป็นเมล็ดเล็กๆ รูปไข่ มีขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร มีสีดำ สีเทา หรือสีขาว มีเยื่อหุ้มเมล็ดที่สามารถดูดซึมน้ำได้ดี

ประกอบไปด้วยโปรตีนประมาณร้อยละ 15-25 มีไขมันร้อยละ 30-40 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายและร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ เช่น a-Linolenic Acid; ALA หรือสารจำพวก Omega-3; n-3 มีอยู่ร้อยละ 60-63 ของไขมันทั้งหมด และมีกรดไขมันไลโนเลอิก Linoleic Acid; LA หรือ โอเมก้า-6 Omega-6; n-6 อยู่ประมาณร้อยละ 20 ที่เหลือเป็นคาร์โบไฮเดรตร้อยละ 25-40 กับมีใยอาหารร้อยละ 18

โดยเมล็ดเชีย หรือเมล็ดเจียนี้จำนวน 100 กรัม มีโพแทสเซียมมากถึง 600-800 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 600-800 มิลลิกรัม, แคลเซียม 500-800 มิลลิกรัม, แมกนีเซียม 300-400 มิลลิกรัม, เหล็ก 5-10 มิลลิกรัม, สังกะสี 0-5 มิลลิกรัม, ทองแดง 0-2 มิลลิกรัม

และเป็นแหล่งของวิตามินทั้งหลายอย่าง วิตามิน A, วิตามิน B, วิตามิน C และวิตามิน E รวมไปถึงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญทั้งหลายในด้านความสวยความงาม เช่น สารประกอบฟีโนลิก ที่ประกอบไปด้วยกรดโคลโรจินิก Chlorogenic Acid กรดกาเฟอิก Caffeic Acid เคอซิทิน Quercetin และ Kaempferol

Chia Seeds ดีต่อสุขภาพ

จากประโยชน์ต่างๆ เหล่านี้ทำให้นักวิจัยด้านสุขภาพทั้งหลายมีความสนใจในธัญพืชชนิดนี้มาก และนำเสนอแนวคิดในการบริโภค เมล็ดเจีย หรือ Chia Seeds หรือ เมล็ดเชีย

อาจมีผลในการช่วยลดน้ำหนัก ลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือดต่างๆ สามารถลดระดับไขมันในเลือด หรืออาจช่วยป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และอาจจะช่วยป้องกันในโรคมะเร็งบางชนิดได้ ซึ่งกำลังมีงานวิจัยออกมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับสรรพคุณของ Chia Seeds

ประโยชน์ของ เมล็ดเชีย

มีการศึกษาถึงประโยชน์ของ เมล็ดเชีย หรือเมล็ดเจีย นี้ว่า มีผลต่อปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดหรือไม่ โดยทำการศึกษาในผู้หญิงและผู้ชายที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 20-70 ปีจำนวนกว่า 76 คน และเป็นผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐานทั้งสิ้น พบว่าผู้ทดลองกินเมล็ดเชียที่แช่น้ำ 10 นาที จำนวน 50 กรัมทุกวัน เป็นเวลานานกว่า 12 สัปดาห์

สามารถทำให้ระดับไขมันโอเมก้า-3 ในเลือดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24.4 โดยสามารถลดไขมันไม่ดี หรือ LDL ในเลือดได้ และรวมถึงการช่วยลดน้ำหนักตัวลงไปกว่าร้อยละ 20 พร้อมทั้งการลดค่าตัวชี้วัดการอักเสบและลดค่าปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและความดันโลหิตลงได้อย่างมาก

Chia Seeds ดีต่อสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม ในปี 2012 ก็ยังมีการศึกษาในกลุ่มเพศที่หมดประจำเดือนไปแล้วและเป็นผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐาน หรือโรคอ้วน พบว่าการกินเมล็ดเชียบดวันละ 25 กรัมเป็นเวลากว่า 7 สัปดาห์ จะทำให้ระดับไขมันดีในร่างกายเพิ่มขึ้น

และอีกหนึ่งการศึกษาในปี 2012 โดย Guevara-Cruz M ได้ผลว่าการกินเมล็ดเชียร่วมกับโปรตีนถั่วเหลืองและข้าวโอ๊ตในกลุ่มผู้ป่วยโรคเมตาบอลิกซินโดรม หรือกลุ่มที่มีภาวะอ้วนลงพุง ในชาวเม็กซิกัน อายุเฉลี่ยระหว่าง 20-60 ปี จำนวน 67 ราย พบว่าการกินอาหารร่วมกับเมล็ดเชีย แต่ให้ลดพลังงานจากอาหารปกติ 500 กิโลแคลอรี่ต่อวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ผลการทดลองกว่า 2 เดือนปรากฏว่าทำให้น้ำหนักตัวและค่าดัชนีมวลกายและเส้นรอบเอวของผู้ทดลองลดลง 0.32 mmol/L ค่าอินซูลินในเลือดลดลง ค่าระดับการอักเสบลดลง แต่ไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและระดับคอเลสเตอรอลรวม

เมล็ดเชีย ลดน้ำตาลในเลือด

นอกจากนี้แล้ว ยังมีอีกหลายบทวิจัยและข้อมูลทางการศึกษาค้นคว้าว่า ผลจากการกินเมล็ดเชีย ต่อระดับน้ำตาลในเลือด โดยให้กลุ่มตัวอย่างกินเมล็ดเชียร่วมกับอาหารหลักปกติและวัดระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหาร 2 ชั่วโมงในกลุ่มตัวอย่างที่มีสุขภาพดีพบว่าการกินเมล็ดเชียที่ปริมาณ 7 กรัม 15 กรัม และ 24 กรัม ร่วมกับขนมปังขาวที่มีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 50 กรัม สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังกินอาหารได้ โดยไม่พบผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค

ทั้งยังพบว่าการกินเมล็ดเชียอย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้ระดับความหิวลดลงหลังกินเมล็ดเชียไปแล้วที่ 60 นาที 90 นาที และ 120 นาที เนื่องจากในเมล็ดเชียมีใยอาหารสูง และเป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำปนกัน จึงช่วยให้รู้สึกอิ่มและไม่อยากอาหารได้นานขึ้น การศึกษานี้ยังระบุด้วยว่าหากรับประทานเมล็ดเชียเป็นประจำทุกวันจะช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น และลดอาการท้องผูกได้อย่างดี

Chia Seeds ดีต่อสุขภาพ

แต่ถึงแม้ว่าเมล็ดเชีย Chia Seeds จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน ผู้บริโภคก็ควรที่จะกินในสัดส่วนที่พอเหมาะ เพราะถ้าร่างกายได้รับมากเกินไปอาจทำให้ได้รับไขมันเกินกำหนด และถ้าไม่ดื่มน้ำหรือของเหลวให้เพียงพอก็จะทำให้เกิดอาการท้องผูกขึ้นได้ ซึ่งปริมาณที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพกำหนดว่าปลอดภัยและได้รับประโยชน์สูงสุดของการกินเมล็ดเชียนั่นก็คือ วันละ 1 ช้อนโต๊ะ โดยสามารถกินร่วมกับอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ได้ปกติ

สำหรับคนที่ยังไม่เคยกินเมล็ดเชีย หรือ Chia Seeds นี้มาก่อนก็ควรเริ่มจากการกินทีละน้อยๆ เนื่องจากอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารและทำให้อาหารไม่ย่อยได้ ข้อควรระวังอีกอย่างก็คือคนที่กินยาละลายลิ่มเลือด ควรจะปรึกษาแพทหรือนักกำหนดอาหารก่อน เนื่องจากอาจทำให้เกิดอันตรายในการกินเมล็ดเชียได้

อ้างอิงจาก คอลัมน์ food for life นิตยสาร Gourmet & Cuisine December 2013 เรียบเรียงโดย beautyfullallday.com

เคล็ดลับสุขภาพที่เกี่ยวข้อง

เคล็ดลับสุขภาพดี

การคุมกำเนิด ด้วย โปรเจสโตเจน

โปรเจสโตเจน เป็นตัวหลักในการยั้บยั้งการตกไข่ของหญิงสาว การเกิดภาวะตกขาว สารตัวนี้ได้รับการพัฒนาอยู่ 2 กลุ่ม

โรคภัยไข้เจ็บ

Solenopsis invicta

มดคันไฟอิวิคต้า Solenopsis invicta มดคันไฟตัวใหม่ หรือ มดคันไฟอิวิคต้า (Solenopsis invicta)

โรคภัยไข้เจ็บ

เจ็บแน่นหน้าอก โรคหัวใจขาดเลือด

หลายครั้งหลายหน ในการใช้ชีวิตแบบปกติธรรมดา อยู่ดีๆ ก็เกิดอาการเจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ

เคล็ดลับสุขภาพดี

ทานไข่ เพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือด

สำหรับผู้ที่มีปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดสูง เป็นที่มาของการเกิดโรคเบาหวานและโรคต่างๆ มากมาย

เคล็ดลับความงาม

เคล็ดลับแต่งหน้า กับวันพิเศษของคุณ

เคล็ดลับแต่งหน้า วันนี้แนะนำการแต่งหน้าไปงานในวันพิเศษๆ ของคุณ

เคล็ดลับผิวสวยใส

เคล็ดลับผิวสวย

เคล็ดลับผิวขาว สวย หน้าใส จากคุณประโยชน์ของขมิ้นชัน ขมิ้นชันเป็นพืชสมุนไพรที่มีหัวอยู่ใต้ดิน มีเนื้อสีเหลืองอมส้ม มีกลิ่นหอม