จากอาการปวดเต้านม ที่เป็นอาการที่เกิดและสามารถพบได้บ่ิอยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ทั้งหลาย หลายต่อหลายครั้งมีคำถามตามมาว่าอาการเหล่านี้จะชักนำไปสู่การเป็นโรคต่างๆ อะไรหรือไม่ วันนี้มีคำตอบมาเฉลยกับ อาการปวดเต้านม กัน
ในสตรีส่วนมากจะมีความวิตกกังวลมากเวลามีอาการปวดเต้านม ซึ่งเกิดขึ้นได้เสมอกับหญิงสาวในวัยเจริญพันธุ์ บางคนจะมีอาการปวดคัดตึงก่อนมีประจำเดือน แต่บางคนก็มีอาการปวดตลอดเวลาไม่ขึ้นกับประจำเดือน บางคนวิตกกังวลและคิดมากจนนอนไม่หลับ กลัวว่าจะผิดปกติจนถึงขั้นเป็นมะเร็งเต้านม บทความนี้จึงน่าเป็นประโยชน์สำหรับสตรีโดยทั่ว ๆ ไปได้เรียนรู้และเข้าใจในเรื่องการปวดเต้านม
อาการปวดเต้านม
อาการปวดเต้านมมี 2 ลักษณะ แบบแรกปวดเต้านมก่อนมีประจำเดือน (cyclical mastalgia) ซึ่งมักจะปวดนมด้านบนและด้านนอก (upper outerquadrant) และอาจร้าวไปท่อนแขนส่วนบนก็ได้ อาการปวดนมอีกแบบหนึ่งคือไม่เกี่ยวข้องกับประจำเดือน (noncyclical mastalgia) ซึ่งอาจเกิดจากการปวดที่มาจากเต้านมเองหรือปวดที่ผนังทรวงอกใต้เต้านมหรือกระดูกอ่อนบริเวณชายโครงจากการศึกษาพบว่ามีสตรีถึง 70 % ที่เคยมีอาการปวดเต้านมมากบ้างน้อยบ้างตลอดชีวิตที่ผ่านมาแต่จะพบว่ามีอาการรุนแรงเพียง 11 % และที่ต้องไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาอาการมีถึง 36 %
สาเหตุของการปวดเต้านม แม้ว่าสาเหตุที่แท้จริงจะยังไม่เป็นที่ชัดเจนแต่มีหลายทฤษฎีที่อธิบายอาการปวดเต้านมอย่างเป็นเหตุเป็นผล เชื่อว่า cyclical mastalgia เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแม้ว่าจะพบความผิดปกติของฮอร์โมนก็ตาม เพราะหลักฐานที่ยืนยันก็คือ อาการปวดในกลุ่มนี้จะหายไปเมื่อตั้งครรภ์ หรืออยู่ในวัยหมดประจำเดือน ส่วน noncyclical mastalgia มักไม่ค่อยพบสาเหตุที่มาจากเต้านมโดยตรง แต่พบได้บ้างที่มีสาเหตุจากภาวะที่เป็นซีสต์ จากการกระทบกระแทกและก้อนเนื้องอกธรรมดาของเต้านม เช่น fibroadenoma
อีกทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่าเกิดจากความไม่สมดุลของกรดไขมันภายในเซลล์ ทำให้เซลล์นั้นมีการตอบสนองต่อฮอร์โมนที่ไวกว่าปกติ จึงเป็นเหตุผลที่ใช้ยารักษาอาการปวดเต้านมด้วย primrose oil capsule ซึ่งทำมาจากกรดไขมันชนิดหนึ่งที่มีผลทำให้เกิดความสมดุลของไขมันภายในเซลล์จึงรักษาอาการปวดเต้านมได้ มียาหลายชนิดที่ทำให้เกิดอาการปวดเต้านมได้ เช่น ยาพวกฮอร์โมนที่รักษาอาการมีบุตรยาก และยาเม็ดคุมกำเนิด และยังมีรายงานการเจ็บเต้านมที่เกิดจากยาคลายเครียดบางชนิดอีกด้วย
อาการปวดเต้านมเกี่ยวข้องกับการเป้นมะเร็งอย่างไร
อาการปวดเต้านมแทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเป็นมะเร็งเลย โดยเฉพาะในรายที่ปวดทั้งสองข้างและเกี่ยวข้องกับการมีรอบเดือน แต่กรณีที่ปวดเต้านมข้างเดียวและไม่เกี่ยวข้องกับการมีรอบเดือนก็ควรที่จะไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุแต่มีเพียง 2 – 7 % เท่านั้น
ในกลุ่มนี้ที่พบมีความเกี่ยวข้องกับการเป็นมะเร็งเต้านมขนาดของเต้านมมีผลต่อการปวดหรือไม่แน่นอนที่สุดขนาดของเต้านมมีผลต่อการเกิดอาการปวดนมตลอดไปจนถึงอาการปวดไหล่ ปวดต้นคอ และปวดหลัง ดังนั้น จึงมีการผ่าตัดลดขนาดเต้านม (reduction mammoplasty) เพื่อรักษาอาการเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ต้องระลึกไว้เสมอว่าการผ่าตัดต่อเต้านมก็มีผลทำให้เกิดอาการปวดนมได้เช่นกัน
ผู้หญิงที่มีอาการปวดเต้านม ควรจะปฏิบัติอย่างไรสำหรับหญิงสาวที่อยู่ในวัยรุ่นถ้ามีอาการปวดเต้านมทั้งสองข้างและเกี่ยวข้องกับการมีรอบเดือนก็ควรจะตรวจเต้านมด้วยตนเอง ถ้าไม่พบความผิดปกติอะไรก็ไม่ต้องกังวลใจ ถ้ามีอาการปวดมากก็ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษา ซึ่งแพทย์เมื่อตรวจแล้วก็จะแนะนำและจัดยาให้ตามอาการ สิ่งที่สามารถทำได้เพื่อลดอาการปวดมีดังต่อไปนี้
- ประคบอุ่นหรือเย็น
- หาเสื้อชั้นในที่เหมาะสมไม่คับหรือหลวมเกินไป
- ใส่ชุดเสื้อชั้นในแบบกีฬา (sport bra) ขณะออกกำลังกายหรือขณะที่มีอาการปวดเต้านม
- ผ่อนคลายเครียดโดยการทำสมาธิ หรือ relaxation therapy
- งดการดื่มกาแฟ มีผู้หญิงจำนวนมากที่หยุดดื่มกาแฟแล้ว อาการปวดเต้านมจะหายไป
- ลดปริมาณอาหารพวกไขมัน
- รับประทานวิตามิน E แม้ว่าจะยังไม่เป็นที่รับรองอย่างเป็นวิชาการแต่ก็ได้ผลดี
- ยาแก้ปวดที่มีอยู่ในท้องตลาด เช่น พาราเซตามอล ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่พวก สเตียรอยด์ (NSAIDs) ก็ใช้ได้ผลดี
- ในรายที่มีอาการมากจนไม่สามารถดำเนินชีวิตอย่างปกติ ประจำวันได้ก็ควรพบแพทย์เพื่อรักษาฮอร์โมนพวก Danazol หรือ Tamoxifen ต่อไป ฮอร์โมนเหล่านี้มีผลข้างเคียงสูง จึงจะสงวนไว้เฉพาะในกลุ่มที่มีอาการปวดอย่างรุนแรงเท่านั้น
สำหรับหญิงที่อยู่ในกลุ่มมีความเสี่ยงสูง เมื่อมีอาการปวดเต้านม ควรที่จะพบแพทย์เพื่อตรวจให้ละเอียดต่อไป
- ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี โดยเฉพาะถ้าหลังหมดประจำเดือน
- มีประวัติเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อนโดยเฉพาะในเต้านมอีกข้าง
- มีประวัติคนในครอบครัวหรือญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม
- มีลูกช้าหรือไม่มีลูก
- มีประจำเดือนครั้งแรกเร็ว (ก่อนอายุ 12 ปี) หรือหมดประจำเดือนช้า (หลังอายุ 55 ปี)
- หญิงที่เคยได้รับรังสีบริเวณหน้าอก
- ความหนาแน่นของเนื้อเต้านมมาก (จากการทำแมมโมแกรม)
- ผู้หญิงที่อ้วนเร็วหลังหมดประจำเดือน
- การรับฮอร์โมนรักษาหลังวัยหมดประจำเดือน
- แม่ที่ไม่ได้ให้นมลูก (non breast feeding)
- หญิงที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
จะเห็นได้ว่าความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม มีทั้งที่หลีกเลี่ยงได้ เช่น การดื่มสุรา หรือหารให้นม และที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ประวัติมะเร็งเต้านมในครอบครัว และผู้หญิงที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมก็ไม่ได้เป็นมะเร็งไปทั้งหมด เมื่อรู้ตัวว่ามีความเสี่ยงเช่นนี้ก็สามารถป้องกันได้โดยการตรวจเต้านมด้วยตัวเองและไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คแต่เนิ่นๆ เป็นประจำเมื่อมีอายุมากขึ้นและโดยเฉพาะเมื่อมีอาการปวดเต้านมเกิดขึ้น
เคล็ดลับสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
เคล็ดลับสุขภาพดี
กินอย่างไร ห่างไกลมะเร็ง
คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องกินประมาณ 80% ในชีวิตเลยทีเดียว เพราะทุกอย่างที่กินเข้าไป ย่อมส่งผลถึงร่างกายในอนาคต กินอะไร ได้อย่างนั้น
เคล็ดลับสุขภาพดี
Healthy in My Plate
เรารู้จักว่าร่างกายควรได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ แต่ยังไม่รู้ว่า คนเราควรกินอะไรใน 5 หมู่นี้ในปริมาณเท่าไหร่ในแต่ละมื้อแต่ละวัน หากเรามีความเข้าใจ
เคล็ดลับผิวสวยใส
อยากผิวสวยต้องห้ามกิน
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังทั่วไปมักจะแนะนำชายหญิงทั้งหลายว่า ถ้าอยากจะรักษาผิวพรรณให้ผ่องใส ดูเป็นหนุ่มสาวอยู่เสมอ
ลดและควบคุมน้ำหนัก
อาหารลดอ้วน ลดเค็ม ก็ผอมได้
จากเมนูลดอ้วน เพื่อหุ่นสวย คราวที่แล้วได้เอ่ยถึงการแนะนำให้รับประทาน โปรตีนก่อนมืออาหารหลักจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแทนชั้นไขมัน อาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของบรรดาสาวๆ ที่อยากจะหุ่นดี
เคล็ดลับความงาม
อาหารเช้าเพื่อสุขภาพที่ดี
ด้วยการดำรงชีวิตในปัจจุบันจะมีความเร่งรีบแข่งกับเวลาในการทำธุระทั้งส่วนตัวและหน้าที่การงาน
เคล็ดลับสุขภาพดี
ข้อเสียของการนอน เสี่ยงโรคเบาหวาน จริงหรือ???
เค้าว่า การนอนน้อย หรือ การนอนมาก มีโอกาสที่จะเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน จริงหรือไม่