ตอนนั้นกำลังนั่งทำงานตามปกติเหมือนทุกวัน อยู่ดีๆ ก็รู้สึกใจสั่นแต่คิดว่าคงไม่เป็นอะไรสักพักคงหายไปเอง
เพราะเคยมีอาการแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว พยายามทนอยู่เกือบชั่วโมงหัวใจก็ยังเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุดสักทีจนเริ่มคิดว่าไม่ไหวแล้ว รีบไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน พอไปถึงวัดความดันขณะนั้นได้ 160 คุณหมอให้ติดเครื่อง Holter เป็นเครื่องมือเล็กๆ สำหรับตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบ 24 ชั่วโมงที่พกติดตัวไปได้และเครื่องก็ทำการบันทึกผลตลอดเวลา ผลที่ได้ปรากฏว่าเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เบื้องต้นคุณหมอให้ยามารับประทาน แต่เนื่องจากเราเป็นโรคลิ้นหัวใจยาวอยู่แล้วจึงทำให้อาการหัวใจเต้นผิดปกติอาจกำเริบได้เสมอและเป็นอยู่บ่อยครั้ง
บางทีขับรถคนเดียวก็มีอาการขึ้นมาหากไม่มีใครอยู่ด้วยจะอันตรายมาก ต่อมาจึงได้ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจเพราะถ้ามีสัญญาณหัวใจเต้น ผิดปกติขึ้นมาเมื่อไหร่เครื่องจะส่งกระแสไฟฟ้ากระตุ้นให้กลับมาปกติโดย อัตโนมัติ ตอนนี้จึงคลายความกังวลลงได้บ้างและกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติแล้วค่ะ นี่เป็นอาการหัวใจเต้นเร็วเกินไป อาการหัวใจเต้นช้า อาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจเต้นผิดปกติ โรคหัวใจ
ปกติอัตราการเต้นของหัวใจในผู้ใหญ่ทั่วไปเฉลี่ยประมาณ 60-100 ครั้งต่อนาที ไม่ควรช้าหรือเร็วเกินกว่านี้มากนัก เมื่อใดเกิดภาวะที่หัวใจเต้นช้าหรือเร็วมากเกินไปหรือเต้นสะดุด เรียกว่า ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หากปล่อยทิ้งไว้จนมีอาการรุนแรงจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพและอาจอันตรายถึงชีวิตได้
อาการที่เกิดกับผู้ป่วยอาจทำให้เกิดความวิตกกังวล หรือกลัวจนไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ และบ่อยครั้งที่ผู้ป่วยได้รับคำแนะนำว่าอาการทั้งหมดเกิดจากความเครียด และได้รับยาคลายความวิตกกังวล หรือยานอนหลับมารับประทานเป็นระยะเวลานาน แต่อาการของผู้ป่วยกลับไม่ดีขึ้นจนรู้สึกว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หาย
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้ป่วยที่การทำงานของหัวใจปกติหรือผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้วก็ได้ ซึ่งอาการหัวใจเต้นช้าหรือเร็วเกินไปจะทำให้ความดันลดลง ส่งผลให้เลือดสูบฉีดไม่เพียงพอ ทำให้มีอาการมึนงง หวิว วูบ หรือหมดสติร่วมด้วย โดยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะพบได้หลายรูปแบบ
อาการหัวใจเต้นผิดปกติ
- หัวใจเต้นช้าเกินไป มีอาการมึนงง หวิว วูบ หมดสติ อาจมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หรือหัวใจเต้นแรงกว่าปกติ
- หัวใจเต้นเร็วแบบมีวงจรลัดไฟฟ้า จะมีอาการหัวใจเต้นเร็วขึ้นโดยทันที ซึ่งอาจเกิดร่วมกับอาการเหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก เป็นลม
- หัวใจเต้นสะดุด จะมีอาการหัวใจเต้นๆ หยุดๆ ตกวูบ คล้ายตกจากที่สูง หรือมีอาการคล้ายจะเป็นลมและเจ็บหน้าอก
- หัวใจเต้นแบบสั่นพริ้วที่หัวใจช่องบน นอกจากมีอาการใจสั่น ยังอาจทำให้เกิดเป็นอัมพาตได้จากการเกิดลิ่มเลือดในหัวใจซึ่งถือว่าอันตรายมาก
- หัวใจเต้นแบบสั่นพริ้วที่หัวใจช่องล่าง จะมีความรุนแรงกว่า เพราะหัวใจช่องล่างทำหน้าที่สูบฉีดเลือดออกไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยตรง
หากหัวใจไม่สามารถบีบตัวเพื่อสูบฉีดเลือดออกไปได้เพียงพอ อวัยวะที่จะเป็นอันตรายมากที่สุดคือ สมอง หากไม่ได้รับการช่วยเหลือภายใน 4-5 นาที อาจทำให้เซลล์สมองเสียหายอย่างถาวรกลายเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้
สาเหตุการเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะ
แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ กลุ่มแรกเป็นความผิดปกติของการกำเนิดกระแสไฟฟ้าหัวใจ กลุ่มสองคือการนำไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ และกลุ่มสามคือทั้งสองอย่างร่วมกัน หรืออาจสัมพันธ์กับโรคหลายชนิด เช่น ลิ้นหัวใจผิดปกติ กล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ หลอดเลือดหัวใจตีบตัน ความดันโลหิตสูง หรือความผิดปกติอื่นๆ ซึ่งทำให้วินิจฉัยได้ยากเพราะว่าผู้ป่วยไม่มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติขณะที่ทำการตรวจ
และนอกจากนั้นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะอาจจะเกิดจากการกระตุ้นจากสารต่างๆ เช่น กาแฟ ชา แอลกอฮอล์ เครื่องดื่มชูกำลัง การรับประทานยาขยายหลอดลมบ่อยๆ ซึ่งผู้ที่เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้
พญ.ชาดา โชติพันธุ์วิทยากุล อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือดโรงพยาบาลเวชธานีได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่าผู้ที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจ ก็อาจพบความผิดปกติเกี่ยวกับจังหวะการเต้นของหัวใจได้ เนื่องจากมีปัจจัยบางอย่างมากระตุ้นให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น ยาขยายหลอดลม สารคาเฟอีนที่อยู่ในชา กาแฟ การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า หรือหัวใจถูกกระตุ้นเพราะความแปรปรวนในระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น ภาวะเครียด กังวล กลัว คิดมาก
สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นระบบประสาทที่ส่งผลต่อการกระตุ้นหัวใจทำให้ใจเต้นเร็ว ใจสั่น เหนื่อย หายใจไม่เต็มอิ่ม หายใจแรง เร็ว และอาจเจ็บหน้าอก อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นขณะอยู่เฉยๆ ไม่ได้ออกแรง ขณะคิดมาก เครียด โมโห แต่ถ้าทำงานเพลินๆ หรือออกแรงเล่นกีฬามักจะไม่มีอาการ กรณีนี้การรักษาด้วยยา หรือการจี้ด้วยไฟฟ้าผ่านคลื่นเสียงความถี่สูงสามารถทำให้หายเป็นปกติได้
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หากไม่รักษาจะเป็นอันตรายอย่างไร
ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะส่วนหนึ่งจะไม่มีอาการ ทำให้ไม่ตระหนักถึงความสำคัญและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ สำหรับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่พบบ่อยที่สุดคือ หัวใจห้องบนเต้นผิดจังหวะ ผู้ป่วยมีโอกาสเกิดอัมพาตได้สูงถึง 10-15% ต่อปี เนื่องจากลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นในหัวใจจากการที่หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะจะหลุดออกไปอุดหลอดเลือดสมอง ทำให้เกิดอัมพฤกษ์อัมพาตได้ และภาวะหัวใจอ่อนกำลัง ก็เป็นอีกสาเหตุของการเสียชีวิตที่สูงขึ้นเมื่อพบร่วมกับโรคเบาหวาน และหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
พญ.ชาดา แนะนำทิ้งท้ายถึงวิธีดูแลร่างกายของผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะว่า ควรหมั่นดูแลสุขภาพของตนเอง หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการหัวใจเต้น เร็วผิดปกติ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด ออกกำลังกายเป็นประจำ หลีกเลี่ยงชา กาแฟ แอลกอฮอล์ หรือยากระตุ้นบางชนิดที่มีผลต่อการเต้นของหัวใจ ถ้าไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อนรับประทานยา
ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลเวชธานี
เคล็ดลับสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
โรคภัยไข้เจ็บ
ป้องกันการเกิดโรคในวัยทอง
หญิงวัยทอง มักเป็นช่วงต่อระหว่างวัยผู้ใหญ่ตอนต้นและในวัยสูงอายุ โดยประชากรชายและหญิงในช่วงอายุ 40 หรือ 45 ปีขึ้นไป
เคล็ดลับความงาม
บำรุงผิวด้วย เบต้าแคโรทีน ชะลอความแก่
เราพบว่าผิวพรรณทั่วไปส่วนใหญ่ของผู้หญิงและเด็กในวัย 2 เดือน – ขวบปีแรก จะเป็นส่วนของร่างกายที่ดีที่สุด
ปัญหาหนังศีรษะ เคล็ดลับความงาม
ผมสวย ไม่ต้องการผูกมัด
การมีสุขภาพเส้นผมที่ดี เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แต่การได้มาซึ่งสุขภาพเส้นผมที่ดีนั้น ต้องเกิดจากการดูแลเอาใจใส่รักษาอย่างทะนุถนอม
เคล็ดลับสุขภาพดี
คอเลสเตอรอล สูง-ต่ำ ลดดีหรือไม่อย่างไร
คนทั่วไปส่วนใหญ่ เชื่อว่า คอเลสเตอรอล คือไขมันที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ ความดัน โรคอ้วน
เคล็ดลับสุขภาพดี
อาหารเสริม เพื่อสุขภาพ
ณ ปัจจุบันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ได้หันมาเอาใจใส่ในเรื่องของการดูแลสุขภาพของตนเองมากยิ่งขึ้น
เคล็ดลับความงาม
Womens union suits one piece
Soft, breathable merino wool makes the Smart women’s union suits one piece Neck Sweater a