ในประเทศไทยเอง มะเร็งเต้านม เป็นโรคที่สามารถพบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 ของหญิงไทยเลยทีเดียว
จากสถิติพบรองจากมะเร็งปากมดลูก และเป็นสาเหตุของการตายของหญิงไทยที่สำคัญ และในสถิติโดยรวมทั่วโลกนั้น อัตราการเป็นมะเร็งเต้านมของผู้หญิงสามารถพบมากขึ้นเรื่อยๆ ประมาณว่า ผู้หญิงที่เดินบนท้องถนน มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งเต้านมในช่วงหนึ่งของชีวิตมากถึง 1 คนใน 10 คนเลยทีเดียว
เรื่องมะเร็งเต้านม นี้ น.พ.นพวัชร์ สมานคติวัฒน์ กลุ่มงานศัลยกรรม ร.พ.ราชบุรี บอกว่าส่วนใหญ่พบในผู้หญิง ส่วนในผู้ชายก็พบได้แต่น้อยกว่ามาก โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ การมีประจำเดือนครั้งแรกเมื่ออายุยังน้อย, การหมดประจำเดือนช้า, ไม่มีลูก หรือมีลูกคนแรก เมื่ออายุเกิน 30 ปี, มีประวัติครอบครัว มีเนื้อเยื่อเต้านมที่ผิดปกติ การรับประทานอาหารไขมันมาก, การดื่มเหล้า ก็เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้น ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้พบเพียง 25% ของผู้ป่วย ขณะที่ 3 ใน 4 ของผู้ป่วยที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยง กล่าวคือผู้หญิงทุกคนล้วนเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้ การยับยั้งเชื้อมะเร็งเต้านมกับสมุนไพร
การเกิด มะเร็งเต้านม
ในระยะเริ่มแรกนั้นจะไม่มีอาการ และสามารถตรวจพบความผิดปกติได้จาก การเอกซเรย์เต้านม ที่เรียกว่าแมมโมแกรมเท่านั้น ต่อมาเมื่อมีการคลำเจอเป็นก้อนแข็ง ระยะแรกเป็นก้อนเล็ก ถ้าทิ้งไว้ก็จะมีการขยายขนาดขึ้นในที่สุด และก็จะแตกออกมาเป็นแผล ในผู้ป่วยบางคนอาจมาหาแพทย์ด้วยอาการของมะเร็งระยะแพร่กระจาย เช่น ถ้ากระจายไปที่ปอดก็จะมีอาการไอ หอบเหนื่อย ถ้ากระจายไปที่กระดูก ก็จะมีอาการปวดกระดูก
ก้อนของเต้านมนั้น ส่วนใหญ่ไม่ใช่มะเร็ง แต่ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งมากขึ้นหากอายุมากขึ้น รายงานนี้วัดจากสถิติ ก้อนที่เต้านมทุกช่วงอายุ พบมะเร็ง 15-20% หากอายุน้อยกว่า 30 ปี พบมะเร็งเพียง 1.5% หากอายุเกิน 50 ปี พบถึง 60%
ก้อนที่เป็นมะเร็งส่วนใหญ่ไม่มีอาการเจ็บ (พบเพียง 15% ที่มีอาการเจ็บ) ซึ่งทำให้คนไข้เข้าใจผิดคิดว่าไม่เจ็บคงไม่ใช่มะเร็ง แล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ เมื่อพบว่ามีก้อนเนื้อที่เต้านมจึงควรได้รับการตรวจและวินิจฉัยจากแพทย์อีกครั้ง และสม่ำเสมอ
การรักษามะเร็งเต้านม
การรักษาหลักของมะเร็งเต้านม คือ การผ่าตัด อาจร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัด การฉายแสง หรือการให้ยาฮอร์โมน มะเร็งเต้านม หากรักษาในระยะแรก สามารถให้การรักษาจนหายขาดได้ แต่หากปล่อยไว้จนเป็นมาก ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ (มะเร็งเต้านมเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ในประเทศสหรัฐอเมริกา)
เนื่องจากเรายังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งเต้านม และผู้ป่วยส่วนใหญ่ ก็ไม่มีปัจจัยเสี่ยงดังที่กล่าวมา การป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการค้นพบให้เร็วที่สุด ซึ่งต้องอาศัยองค์ประกอบ 3 อย่างคือ
คลำเจอก้อนเนื้อใต้ราวนม เป็นมะเร็งหรือไม่
- การตรวจเต้านมด้วยตนเอง : แนะนำให้เริ่มตรวจเมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป โดยตรวจเป็นประจำทุกเดือน
- การตรวจเต้านมโดยแพทย์ : แนะนำในอายุ 20-40 ปี ควรตรวจทุก 3 ปี อายุมากกว่า 40 ปี ควรตรวจทุกปี
- การตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรม : ควรเริ่มทำเมื่ออายุ 35 ปี และเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจทุก 1-2 ปี
การตรวจเต้านมด้วยตนเองนับเป็นความสำคัญอันดับหนึ่ง เนื่องจากผู้ป่วย มะเร็งเต้านมส่วนใหญ่มาพบแพทย์ด้วยเรื่องก้อนที่เต้านม โดย 80-90% ของก้อน ผู้ป่วยคลำพบเอง หากไม่เคยตรวจเต้านมด้วยตนเองเลย ก้อนที่พบมักจะมีขนาดใหญ่ ประมาณ 3-5 ซ.ม. หรือมากกว่า
หากเคยตรวจบ้างเป็นครั้งคราว ก้อนมักมีขนาด 2-3 ซ.ม. หรือ หากตรวจประจำทุกเดือน อาจพบก้อนได้ตั้งแต่ขนาด 1-2 ซ.ม. หรือเล็กกว่า มีโอกาสรักษาให้หายขาดได้
มีความเชื่อบางประการที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และควรได้รับการแก้ไข โดยหลักง่ายๆ ของการตรวจเต้านมด้วยตนเอง คือ ให้เริ่มตรวจเต้านมด้วยตนเอง ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป โดยตรวจเป็นประจำทุกเดือน ในช่วงหลังหมดประจำเดือนแล้ว 7-10 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่เต้านมไม่มีการคัดตึง เริ่มจากการยืนหน้ากระจก เพื่อดูความผิดปกติ จากนั้นจึงใช้ส่วนปลายของฝ่านิ้วมือ 3 นิ้ว คือ ชี้ กลาง นาง กดคลำให้ทั่วเต้านม ในท่านอน และท่ายืน
ปัจจัยเสี่ยง ที่ทำให้เกิด มะเร็งเต้านม
- ใช้ฮอร์โมนทดแทนในการรักษาภายหลังวัยหมดประจำเดือน
- ใช้ยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน (OCPs) เป็นระยะเวลานาน
- ไม่เคยให้นมบุตร
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2-5 แก้วต่อวัน
- มีน้ำหนักตัวมากเกินไป (โดยเฉพาะวัยหมดประจำเดือน)
- ขาดการออกกำลังกาย
- รับประทานอาหารพวกไขมันมากเกินไป
การใช้ฮอร์โมนทดแทนหรือยาคุมกำเนิดแบบ รับประทานอาจมีความจำเป็นแม้ว่าจะมีความเสี่ยง แต่ ความสัมพันธ์ระหว่างยาคุมกำเนิดแบบรับประทานกับมะเร็งเต้านมยังคงเป็นที่ถก เถียงกัน ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ว่ามีทางเลือกอื่นๆ บ้างหรือไม่
ปัจจัยเสี่ยง ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อาจทำให้เกิด มะเร็งเต้านม
- เป็นผู้หญิง
- อายุ (ความเสี่ยงมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น)
- มีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี
- หมดประจำเดือนหลังอายุ 50 ปี
- การที่ไม่เคยมีบุตร
- มีบุตรภายหลังอายุ 30 ปี
- มีแม่ พี่น้อง หรือลูกสาวเคยเป็นมะเร็งเต้านม
- เคยตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม หรือเต้านมมี การเปลี่ยนแปลงอยู่ในภาวะก่อนเป็นมะเร็งเต้านม
- มีความผิดปกติของยีนส์ที่ได้รับ การถ่ายทอดพันธุกรรมมาจากพ่อแม่
- เคยมีประวัติเป็นมะเร็งมดลูกและมะเร็งลำไส้ใหญ่ (รวมถึงประวัติในครอบครัวเคยมีคนเป็นด้วย)
การตรวจเต้านมด้วยตัวเองเป็นประจำ และเมื่อพบความผิดปกติใดๆ ควรรีบไปรับการตรวจเบื้องต้น หรือตรวจร่างกายกับแพทย์เป็นระยะ ในช่วงที่เหมาะสมกับวัยและประวัติความเสี่ยง จะช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะแรก
เคล็ดลับสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
เคล็ดลับความงาม
เคล็ดลับแต่งหน้า กับวันพิเศษของคุณ
เคล็ดลับแต่งหน้า วันนี้แนะนำการแต่งหน้าไปงานในวันพิเศษๆ ของคุณ
เคล็ดลับสุขภาพดี
Peritoneum Mesothelioma Healthy
If you are wondering “do I have peritoneal mesothelioma?” you should seek the guidance of
โรคภัยไข้เจ็บ
ปัจจัยเสี่ยง มะเร็งเต้านม
ในประเทศไทยเอง มะเร็งเต้านม เป็นโรคที่สามารถพบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 ของหญิงไทยเลยทีเดียว จากสถิติพบรองจากมะเร็งปากมดลูก และเป็นสาเหตุของการตายของหญิงไทยที่สำคัญ และในสถิติโดยรวมทั่วโลกนั้น อัตราการเป็นมะเร็งเต้านมของผู้หญิงสามารถพบมากขึ้นเรื่อยๆ ประมาณว่า ผู้หญิงที่เดินบนท้องถนน มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งเต้านมในช่วงหนึ่งของชีวิตมากถึง 1 คนใน 10
เคล็ดลับผิวสวยใส
AHA Acid เคมีในผลิตภัณฑ์ ครีมผิวขาว
สารเคมีที่ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ผิวขาว เพื่อให้ผิวได้ผลัดเซลล์ผิวเก่าสร้างผิวใหม่นั้น ชื่อว่า AHA (Alpha Hydroxy Acid) และยังมีอีกหลายตัว
สุขภาพเต้านม ทรวงอก
เทคนิคการให้นมบุตรได้นาน
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็รู้ว่านมแม่มีประโยชน์มหาศาลกับลูกอย่างไร คุณแม่อินเทรนด์ที่กําลังตั้งครรภ์ ต่างก็ตั้งธงว่า “ฉันจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ได้”
เคล็ดลับสุขภาพดี
Melamine สารอันตราย ที่ควรรู้ไว้
ถึงคราวที่ทั่วโลกต้องตื่นตัวอีกครั้ง เมื่อนมผงมรณะที่มีสารเมลามีนปนเปื้อนได้คร่าชีวิตทารกชาวจีนไป 4 คน และเด็กอีกครึ่งแสนต้องเผชิญกับโรคนิ่วในไต