ขึ้นชื่อว่า กาแฟ ก็มีทั้งคุณและโทษ แต่ดูเหมือนว่าโทษของกาแฟ ก็ไม่แพ้การเขียนอันตรายไว้บนซองบุหรี่

เพราะรู้ทั้งรู้ แต่ก็ยังจะทำ สำหรับใครหลายๆ คน กาแฟ อาจเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ต้องดื่มทุกวัน วันละหลายๆ แก้ว ดื่มแล้วหูตาสว่าง สดชื่น ความคิดแจ่มใส แต่ก็มีอีกหลายคนที่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับ คาเฟอีน ที่เกรงจะก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย

ปัจจุบันมีผลวิจัยด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์ และยา ในต่างประเทศจำนวนมาก พบว่า การดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสมนั้น ปลอดภัย และส่งผลดีต่อสุขภาพได้ หากดื่มอย่างถูกต้อง โดยผู้ที่ดื่มกาแฟไม่ควรดื่มเกิน 2 แก้วต่อวัน การได้รับปริมาณคาเฟอีนในระดับหนึ่ง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม และโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับแข็ง และมะเร็งในเซลล์ตับ คาเฟอีนในกาแฟยังสามารถเพิ่มความเร็วในการเผาผลาญไขมัน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภทที่ 2 โรคอ้วน มีส่วนช่วยเพิ่มความจำระยะสั้น และเพิ่มไอคิวด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ควรรับ คาเฟอีน อย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนนอน รวมถึงผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะกาแฟมีผลต่อการเพิ่มความดันโลหิต แม้ กาแฟจะมี ข้อดีที่เป็นเหตุผลให้คนส่วนใหญ่นิยมดื่ม แต่การบริโภคคาเฟอีนในปริมาณเข้มข้นอย่างยิ่ง และมากเกินไป ก็เปรียบเสมือนยาพิษได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรดื่มให้เป็น

ดื่มกาแฟไปนานๆ จะติดหรือไม่ องค์การอนามัยโลกในหลายปีก่อน ได้กล่าวว่า ไม่มีหลักฐานว่ากาแฟจะเป็นสารซึ่งหากดื่มนานๆ แล้วจะเสพติด การดื่มกาแฟจะเป็นนิสัยมากกว่าเสพติด เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณของกาแฟและเมื่อหยุดกาแฟบางคนก็เกิดอาการปวดหรือมึนศีรษะเพียงเล็กน้อย แต่ผลวิจัยปัจจุบันชี้ชัดว่า การดื่มกาแฟจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ดื่มได้รับปริมาณสารคาเฟอีนในร่างกายเพิ่มมากขึ้น

ดื่มกาแฟมากๆ ก็เกิดโทษ กาแฟลดน้ำหนัก กาแฟลดไขมัน กาแฟลดความอ้วน

ยกตัวอย่างเช่นการดื่มกาแฟเพื่อช่วยไม่ให้ง่วงนอน การดึ่มกาแฟด้วยจุดประสงค์นี้ร่างกายจะได้รับสารคาเฟอีนในปริมาณน้อย ช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และคึกคัก ด้วยคาเฟอีนมีฤทธิ์ไปทำให้สมองตื่นตัวอยู่เสมอ แต่จะใช้เวลาไม่นาน พอหมดฤทธิ์คาเฟอีนแล้วสมองก็กลับมาสู่สภาวะปกติ การจะทำให้รู้สึกตื่นตัวก็ต้องมีการรับคาเฟอีนเข้าไปอีก การรับเข้าไปนานๆ สมองจะบันทึกไว้ว่าในปริมาณเท่าไหร่ และเวลาการตื่นตัวก็จะเริ่มลดน้อยลง ดังนั้น เมื่อได้รับคาเฟอีนในแต่ละวัน 1 แก้ว แต่ในระยะต่อไปอาจต้องเพิ่มเป็น 2 แก้ว หรือ 3 แก้วเพื่อให้สมองรู้สึกสดชื่น อาการแบบนี้เรียกว่า สมองดื้อคาเฟอีน caffeine tolerance หรือ เป็นอาการที่ต้องการปริมาณการดื่มกาแฟในแต่ละวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงจะทำให้รู้สึกสดชื่นหรือกระปรี้กระเปล่าเท่าเดิม ซึ่งเป็นอันตรายอย่างสูง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการดื่มกาแฟลดความอ้วน หรือกาแฟลดไขมัน กาแฟลดน้ำหนัก

จากการศึกษาพบว่า การดื่มกาแฟจะทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินเพิ่มขึ้น 15 % กรดไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น ฮอร์โมน epinephrine เพิ่มสูงขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้นซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานและควรทราบถึงวิธีลดน้ำตาลในเลือดด้วย

นายสง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการระดับ 9 กรมอนามัย กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่กาแฟจะทำให้ลดน้ำหนักได้ เพราะไม่มีข้อมูลวิทยาศาสตร์ยืนยันเช่นนั้น ทั้งนี้ ถ้าหากกินกาแฟสูตรใดสูตรหนึ่งแล้วสามารถลดน้ำหนักได้จริงคคงเป็นการเติมสารอะไรบางอย่างทำให้มีผลต่อร่างกาย ซึ่งอาจเป็นยาลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายมาก

โดยทุกวันนี้ยังไม่มีอาหารเสริมใด รวมถึงกาแฟที่เป็นการลดน้ำหนักได้อย่างถาวรและยั่งยืน เท่ากับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย ทั้งนี้ อาหารเสริมจะทำให้ลดน้ำหนักได้เฉพาะช่วงที่ทานหรือดื่มอาหารเสริมเหล่านั้นอยู่ แต่หลังจากเลิกแล้วก็จะเกิดโยโย่เอฟเฟกต์ ทำให้น้ำหนักกลับมาอ้วนเหมือนเดิม ทั้งนี้ ความเชื่อกันว่า ดื่มกาแฟกับแซนด์วิชแล้วจะทำให้น้ำหนักลดลงนั้น น้ำหนักลดลงแน่แต่ลดจากการอดอาหารอื่นๆ ทานแต่กาแฟมันก็ย่อมลด แต่ไมได้ลดจากกาแฟโดยตรง จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงกับการโหมโฆษณาที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทานกาแฟ

นอกจากนี้ อาจมีผลเสียกับร่างกายได้ หากดื่มกาแฟมากกว่าวัน 2 แก้วต่อวัน เพราะหากร่างกายได้รับปริมาณกาเฟอีนเกินไปก็อาจเป็นอันตรายได้ และหากมีการเติมสารหรือตัวยาสำหรับการลดน้ำหนัก ก็อาจเป็นอันตรายกับร่างกายในระยะยาวด้วยเช่นกัน

การออกกำลังกาย จะช่วยให้สมองเพิ่มซีโรโตนิน (serotonin) และโดปามีน (dopamine) ได้เช่นเดียวกันกับการได้รับสารคาเฟอีน

ที่มาข้อมูล : lodnumnuk.com / หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ / เรียบเรียงใหม่โดย www.beautyfullallday.com

เคล็ดลับสุขภาพที่เกี่ยวข้อง

สุขภาพเต้านม ทรวงอก

มะเร็งเต้านมกับแพทย์ทางเลือก

ในปัจจุบันการแพทย์ทางเลือก จัดเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องโรคที่รักษายาก

ลดและควบคุมน้ำหนัก

สุขภาพกับเส้นรอบเอว

ผู้หญิงส่วนใหญ่เน้นการมีรูปร่างที่กระชับได้สัดส่วน โดยเฉพาะเส้นรอบวงเอว และที่สำคัญนั้นผู้หญิงที่มีเส้นรอบเอวมากกว่า 31.5 นิ้ว หรือตั้งแต่ 80 เซนติเมตร มีแนวโน้มที่จะเกิดเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ มากมาย

เคล็ดลับผิวสวยใส

อยากผิวสวยต้องห้ามกิน

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังทั่วไปมักจะแนะนำชายหญิงทั้งหลายว่า ถ้าอยากจะรักษาผิวพรรณให้ผ่องใส ดูเป็นหนุ่มสาวอยู่เสมอ

โรคภัยไข้เจ็บ

โรคปวดหลัง บริเวณเอวด้านซ้าย

พี่ชายน้องบิวเป็น โรคปวดกล้ามเนื้อหลัง Musculotendinous Strain ตรงบริเวณเอวด้านซ้าย ปวดมาหลายปีแล้ว แต่อาการไม่รุนแรงมาก

เคล็ดลับสุขภาพดี

รู้ทัน อาหารฟังก์ชัน functional foods

หากในยุคนี้ ถ้าไม่เอ่ยถึงเรื่องของอาหารฟังก์ชั่นอย่าง ฟังก์ชันแนล ฟูดส์ หรือ functional foods ก็ดูเหมือนว่าจะเชยไม่ทันสมัยเสียเท่าไหร่

เคล็ดลับสุขภาพดี

กินอย่างไร ห่างไกลมะเร็ง

คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องกินประมาณ 80% ในชีวิตเลยทีเดียว เพราะทุกอย่างที่กินเข้าไป ย่อมส่งผลถึงร่างกายในอนาคต กินอะไร ได้อย่างนั้น