คอลลาเจน ดีจริงหรือ

เคล็ดลับผิวสวยกับคอลลาเจน จัดเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เกิดจากกรดอะมิโนเพียงไม่กี่ชนิด ที่เรียงตัวซ้ำไปซ้ำมา โครงสร้างส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอนคือ [Gly-Pro-X] หรือ [Gly-X-Hyp] ที่ถูกเรียงตัวกันซ้ำๆ โดย Gly คือ ไกลซีน (glycine) Pro คือ โพรลีน (proline) Hyp คือ ไฮดรอกซีโพรลีน (hydroxyproline) และ X คือ กรดอะมิโนใดก็ได้

จะเห็นว่า 1 ใน 3 ของกรดอะมิโนที่ประกอบเป็นคอลลาเจน คือ ไกลซีน ส่วนที่เหลือเป็นโพรลีนและไฮดรอกซีโพรลีนรวมกัน ซึ่งกรดอะมิโนทั้งสามนี้ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้เองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรับจากภายนอกอีก ที่เหลือ (X) คือตำแหน่งที่มีโอกาสเป็นกรดอะมิโนใดๆ ซึ่งมีโอกาสที่จะเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นเพียง 8 ใน 20 หรือประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นเมื่อคำนวณออกมาจะเห็นว่าชนิดและปริมาณของกรดอะมิโนที่จำเป็นมีสัดส่วนน้อยมากในคอลลาเจน แต่กลับอุดมไปด้วกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็นซึ่งเมื่อร่างกายได้รับมากขึ้นก็เพียงขับถ่ายออกไปเท่านั้น แล้วจะยอมจ่ายเงินแพงๆ เพื่อบริโภคกันไปทำไม

แต่ไม่ว่ายังไง คอลลาเจน ก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์เสียทีเดียว ในทางการแพทย์แผ่นคอลลาเจนเป็นวัสดุที่เหนียว ยืดหยุ่น และอุ้มน้ำได้ดี เป็นคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับใช้ปิดปากแผล ใช้เป็นลิ้นหัวใจเทียม หรือใช้ในการศัลกรรมอวัยวะต่างๆ รวมทั้งเพื่อเสริมความงาม ในอุตสาหกรรมอาหารใช้คอลลาเจนในการเพิ่มเนื้อสัมผัสให้อาหาร โดยใช้คอลลาเจนที่ผ่านความร้อนเป็นเวลานานจนโปรตีนเสียสภาพ หรือที่เรียกว่า เจลลาติน ซึ่งเราเองก็บริโภคกันมานานในฐานะขนมชนิดหนึ่ง

คอลลาเจนมีคุณค่าเท่าที่มันจะมีได้ เราใช้ประโยชน์และบริโภคมันมานานแล้ว ก่อนที่จะมีผู้นำไปกล่าวอ้าง เสริมเติมแต่งสรรพคุณต่างๆ เข้าไป เมื่อเกิดกระแสความนิยมขึ้นแล้ว การเปลี่ยนความเชื่อของคนเป็นเรื่องยากยิ่ง แม้จะนำข้อเท็จจริงข้างต้นมาหักล้าง แต่หากตัวผู้บริโภคเชื่ออย่างฝังหัวไปแล้วย่อมมีข้อแก้ต่าง มีเหตุผลให้ตนเองเสมอ อย่างกรณี เครือง GT200 แม้จะแกะตัวเครื่องให้เห็นด้านในกลวงๆ แต่เหล่าทหารที่เชื่อสุดใจไปแล้ว ก็ยังโต้แย้งว่าเครื่อง GT200 ใช้การได้ และขออนุมัติให้ซื้อมาใช้เพื่อความสบายใจ (ด้วยราคาหลักล้าน)

ความเชื่อเรื่อง คอลลาเจน กินแล้วดี

เรื่องของเคล็ดลับผิวสวยกับคอลลาเจนนั้น ในสูตรเคล็ดลับหน้าใส แม้จะมีหลักฐานหรือข้อเท็จจริงใดๆ ที่จะมายืนยันว่ากินคอลลาเจนแล้วดี ก็คงมีแต่คำโฆษณา หากจะโต้แย้งให้ฟังก็จะหาว่า “เค้าใส่มาแล้วก็น่าจะมีประโยชน์บ้าง ดีกว่าไม่ใส่มาเลย” หรือ “มีงานวิจัยว่ากินแล้วรู้สึกดีขึ้น ริ้วรอยลดลง” ซึ่งทั้งหมดทั้งหลายนี้ล้วนแต่เป็นข้ออ้างทั้งสิ้น แม้จะมาจากงานวิจัยแต่ก็มักเป็นงานวิจัยที่ทำขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อหาข้อมูลให้สนับสนุนด้านดีของผลิตภัณฑ์ เช่น งานวิจัยที่สรุปว่าทาครีมที่ผสมคอลลาเจนแล้วกลุ่มตัวอย่างรู้สึกผิวนุ่มมากขึ้น

คอลลาเจน ดีจริงหรือ

เพราะความเชื่อที่ว่า รู้สึกผิวนุ่มมากขึ้น ในงานวิจัยแบบนี้ เป็นความรู้สึกส่วนตัวของกลุ่มตัวอย่างเล็กๆ เพียงไม่กี่คนที่อาจถูกถามนำด้วยคำถามในแบบสอบถามว่าหลังจากใช้ครีมแล้ว รู้สึกผิวนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้นหรือไม่ แล้วมีตัวเลือกเช่น นุ่มมาก นุ่มเล็กน้อย เท่าเดิม นุ่มน้อยลง ให้เลือก การถามนำลักษณะนี้ย่อมได้คำตอบที่เอนเอียงไปในแนวทางที่ผู้วิจัยต้องการ และที่บอกว่านุ่มมากขึ้นนั้น เทียบกับอะไร? ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นการทดลองเทียบระหว่างการทาครีมผสมคอลลาเจนกับการไม่ทาครีมใดๆ ซึ่งไม่แปลกที่สารให้ความชุ่มชื้นที่ใช้ในครีมทั่วไป รวมทั้งส่วนประกอบอีกนับ 10 ชนิด ที่อยู่ในเนื้อครีมจะทำให้รู้สึกว่าผิวนุ่มมากขึ้น แต่งานวิจัยกลับสรุปเหมารวมว่าเป็นเพราะผลของคอลลาเจนล้วนๆ

งานวิจัยลักษณะนี้แค่กลุ่มตัวอย่าง 6 คน จาก 10 คน ตอบแบบสอบถามว่า นุ่มเล็กน้อย ก็สามารถเขียนโฆษณาได้แล้วว่า จากการวิจัยผู้ใช้มากกว่าครึ่งใช้ครีมผสมคอลลาเจนเพียงครั้งเดียว ก็รู้สึก ผิวนุ่มชุ่มชื้น กระชับเต่งตึง หน้าเด้ง มีเลือดฝาด

ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นคงไม่ได้คิดจะให้ข้อมูลครบทุกแง่มุมอยู่แล้ว เห็นได้จากการเลือกใช้ถ้อยคำในโฆษณาที่จงใจคัดสรรค์ถ้อยคำที่ทำให้ผู้ชมโฆษณาอนุมาน หรือคิดไปเองว่าผลิตภัณฑ์นี้ดีเลิศ รวมทั้งจงใจไม่นำเสนอข้อมูลบางอย่างที่เป็นผลเสียต่อยอดขาย ข้อมูลจากผู้ผลิตจึงเป็นความจริงเฉพาะที่เขาอยากบอกเท่านั้น อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่พบมากถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนในสัตว์ จึงมีอยู่เป็นจำนวนมาก หาได้ง่าย ด้วยต้นทุนราคาถูก หากสามารถทำให้เกิดกระแสนิยมบริโภคคอลลาเจนจนทำให้คอลลเจนขายได้ราคาสูงขึ้นอีกหลายเท่า คิดเป็นกำไรมูลค่ามหาศาล แล้วมีหรือที่ผู้ผลิตอาหารจะสนใจว่าประโยชน์ที่แท้จริงของคอลลาเจนมีมากแค่ไหน?

ถ้าจะมีหนทางใดที่ทำให้กระแสเรื่องคอลลาเจนจางหายไป น่าจะเป็นเพราะเจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเอง เมื่อความนิยมคอลลาเจนมาถึงจุดอิ่มตัว ไม่รู้จะขายสินค้าคอลลาเจนในรูปแบบใดแล้ว เจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ จำเป็นต้องสร้างกระแสใหม่และค่านิยมใหม่ขึ้นมา ประโคมโฆษณา ให้ข้อมูลที่บิดเบือนแก่ผู้บริโภค เป็นไปตามวงจรเดิมๆ เมื่อมีแหล่งรายได้ใหม่แล้ว เมื่อนั้นเรื่องเคล็ดลับหน้าใสที่ว่า “กินคอลลาเจนแล้วมีประโยชน์หรือไม่?” ก็คงไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป

ที่มา www.vcharkarn.com

การรักษา สิวอุดตัน เคล็ดลับหน้าใส

หากใครที่ไม่มีปัญหาสิว เป็นคนที่มีลาภอันประเสริฐจริงๆ เพราะปกติแล้ว สิวเป็นเรื่องของธรรมชาติ เพียงบางส่วน แต่สิ่งกระตุ้นให้เกิดสิวนั้นก็เกิดจากธรรมชาติ เพราะสิวส่วนใหญ่มาจากปัจจัยภายในร่างกายหรือธรรมชาติของร่างกายแต่ละคน ที่มีฮอร์โมนมากน้อยแตกต่างกันออกไป

อ่านเพิ่มเติม

เคล็ดลับความงามที่เกี่ยวข้อง

ผิวสวยหน้าใส

การทําให้หน้าใส

วิธีการทําให้หน้าใสกับสูตรพอกหน้าใส นับเป็นการเสริมความงามที่สาวๆ ส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบและทำกันเป็นประจำ เนื่องจากการพอกหน้านั้น ก็คือ การบำรุงผิวหน้าแบบง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องไปเสียสตางค์และออกนอกบ้านให้เสียเวลา

เคล็ดลับความสวย

สวยครบเซ็ต แบบฉบับสาวมั่น

วิธีสวยครบตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า แบบสบายกระเป๋าตังค์ แต่ละความสวย ต่างก็มีแยกกันออกไปตั้งแต่ศีรษะจรดเปล้าเท้า เสื้อผ้า หน้าผม เป็นเรื่องที่ยากหากจะต้องเป๊ะเว่อร์ก่อนออกจากบ้านในแต่ละครั้ง เพราะบางครั้ง การสวยครบเซ็ต ก็เป็นอะไรที่เสียเวลาและเลือกยาก

ผิวสวยหน้าใส

เคล็ดลับหน้าใส แบบดารา

เคล็ดลับผิวสวยแบบฉบับดารา ใครบ้างไม่อยากมี แต่ดารา เค้าหน้าใสกันอย่างไร ใช้ผลิตภัณฑ์อะไรจึงทำให้หน้าใสได้ เวลาเจอพวกดารา ดีเจ โดยเฉพาะหนุ่มๆ สาวๆ แต่ละคน ทำไมเค้าหน้าใสอย่างนี้นะ ทั้งๆ ที่ทำงานหนัก นอนดึก บางคนทำงาน...

เคล็ดลับความสวย

การกระชับ รูขุมขน

ผิวไม่เนียน ผิวหยาบกระด้าง หลากหลายปัญหาผิวที่ทำให้สาวๆ กลายเป็นคนคิดมากเรื่องความสวย และเกิดอาการกลุ้มอกกลุ้มใจ หนึ่งในเรื่องของผิวพรรณ

ผิวสวยหน้าใส

เผยวิธีสวย กับเคล็ดลับหน้าใส วัยทีน

เผย 11 วิธีกับการทำหน้าใสไร้สิว ด้วยการรวมเอาเทคนิคและเคล็ดลับชั้นสูงจากเหล่าบรรดาสาววัยทีนสุดสวยทั้งหลาย ว่าทำอย่างไรให้หน้าใส ไร้สิวฝ้า ด้วยยุคนี้สมัยนี้เทรนด์หน้าใสกำลังมาแรง

แต่งหน้าสวย

ความเข้าใจผิดๆ ของการแต่งหน้า

ผู้หญิงอย่างเรานั้น การดูแลตัวเองถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยต้องใส่ใจต่อรายละเอียดต่างๆ ของตัวเองให้มาก จะส่งผลดีต่อบุคลิกและทำให้ดูโดดเด่นเป็นที่น่าสนใจของคนมองได้เป็นอย่างดี